ข้อแนะนำก่อนคิดซื้อประกันชีวิตและสุขภาพ

ข้อแนะนำก่อนคิดซื้อประกันชีวิตและสุขภาพ

ถ้าท่านอ่านมาถึงหน้านี้ เดาว่าท่านน่าจะเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจ หรือ กำลังมองหา อยากซื้อประกันเอาไว้บ้างแล้วใช่ไหมค่ะ ? 

ไม่ว่าท่านจะสนใจซื้อเอง หรือ อ่านไว้เพื่อเป็นประโยชน์ก็ยินดีค่ะ

หนิงขออนุญาต เรียนแนะนำจากประสบการณ์บริการลูกค้า ประกันชีวิตมา เกือบยี่สิบปี

อาจจะไม่ตรงใจท่านทั้งหมด แต่ก็เชื่อว่าน่าจะพอเป็นประโยชน์กับท่านบ้าง ไม่มากก็น้อยค่ะ

สรุปคำถามจากลูกค้า ก่อนซื้อประกันชีวิตคะ

1. ต้องเตรียมอะไรบ้าง จะได้อะไรจากประกันชีวิต?

เตรียมตัว เตรียมใจ

ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจซื้อประกัน ควรเตรียมความพร้อมที่จะเปิดใจ และปรับทัศนคติให้เข้าใจในระบบประกันเสียก่อนนะคะ

เพราะถ้าหากไม่เข้าใจธรรมชาติของประกัน ท่านจะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ มันเสียดายเงิน เสียดายเวลา มันไม่คุ้ม และ ๆ อีกหลายๆ ไม่ที่ไม่ปรารถนา จนกระทั้งเสียความรู้สึกกับวงการประกันชีวิตไปเลย

ท่านต้องรู้ก่อนว่า จะซื้อประกันเพื่ออะไร

เพื่อใคร ? เช่น

- ซื้อเพื่อตัวเอง เพื่อเป็นเงินเก็บในอนาคต

- ซื้อเพื่อใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษี

- ซื้อเพื่อให้ความคุ้มครองชีวิต และ ภาระหนี้สิน

- ซื้อเพื่อแบ่งเบาภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในเรื่องสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือโรคร้าย

- ซื้อเพื่อเป็นมรดกให้กับพ่อแม่ พี่น้อง สามีภรรยา ลูกหลาน

ฯลฯ เช่น ทำพินัยกรรมผ่อนส่ง

2. ต้องเตรียมเงินเท่าไร แพงไหม ?

เบี้ยจะถูกหรือแพง อยู่ที่ท่านกำหนดคะ

ท่าน ควรเตรียมความพร้อมทางการเงินที่ท่านจัดสรรแล้วว่า ไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายประจำของท่าน

เพราะประกันชีวิตเป็นโครงการระยะยาว เงินที่จะใช้ในส่วนนี้ ท่านต้องแน่ใจว่าจะต้องตัดใจ เก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัย และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินก้อนนี้

เพราะมันคือเงินที่เตรียมส่งมอบให้กับท่าน หรือ คนที่ท่านรักในอนาคต ท่านต้องคำนวณแล้วว่า หลังจากหักค่าใช้จ่ายทุกตัวแล้ว ท่านจะบริหารเงินก้อนนี้ได้โดยไม่กระทบกับรายจ่ายของท่าน 

หรือ ถ้าหากเกิดภาวะทางเศรษฐกิจแล้ว ท่านยังคงรับภาระนี้ได้

ซึ่งแน่นอนค่ะว่า ถ้าหากท่านส่งไม่ถึงฝั่งฝัน หรือ ไม่ครบสัญญา ส่วนใหญ่จะขาดทุน

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่สถานะการณ์ตอนนั้น และความจำเป็นที่ท่านจะต้องตัดสินใจเอง และยอมรับได้ถ้าหากจำเป็นต้องปิดกรมธรรม์

ท่านไม่จำเป็นต้องทำมากมาย เริ่มจากทำตามกำลัง และความสามารถที่จะบริหารเงินก้อนนี้ได้

ท่านสามารถสร้างวินัยในการออมเงินเล็กๆน้อยๆได้ ท่านจะมีเงินก้อนใหญ่ตามมาอย่างไม่รู้ตัว และจากประสบการณ์ที่ได้เจอลูกค้าส่วนใหญ่ที่เริ่มจากฝากเบี้ยปีละ หลักพัน

และสามารถรักษาวินัยไว้ได้ ลูกค้าหลายท่านบางคนมีค่าตัวสูงขึ้น แน่นอนค่ะว่า ทุนประกันชีวิตก็สูงขึ้นตามด้วย จนปัจจุบันบางคนมีเบี้ยประกันจ่ายเบี้ยปีละ หลายล้าน !   จากที่เริ่มซื้อประกันเล่มแรก เบี้ยปีละ 5,000 กว่า  !

3.  ยังไม่พร้อม

อย่าเกรงใจที่จะปฏิเสธหนิง  ถ้าท่านยังไม่พร้อมที่จะซื้อประกัน เพราะบางคนซื้อประกันด้วยความเกรงใจ หรือเพราะช่วยเหลือ

การซื้อประกันแบบนี้ลูกค้าไม่ต้องการประกัน ไม่เต็มใจที่จะซื้อ ส่วนใหญ่ไปไม่ถึงฝั่ง เสียหายทั้งสองฝ่าย ลูกค้าขาดทุน เสียความรู้สึก ตัวแทนก็เสียประวัติอัตราความยั่งยืนเพราะฉะนั้นบอกกันตรงๆ ขอเลี่ยงเป็นช่วยอย่างอื่นดีกว่าค่ะ

ขอให้ท่านสบายใจได้ว่า คำตอบของท่านถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่ทำ คือ ไม่ตื้อ ไม่รบกวนท่านคะ

4.  ขอคิดดูก่อน ?

ท่านยังไม่ต้องรีบร้อนให้คำตอบภายในวันเดียวก็ได้ค่ะ ถ้าท่านยังไม่พร้อม

แต่ขอกำหนดเวลาให้คำตอบหนิงมีเป้าหมาย มีทิศทาง มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ตรงไป ตรงมา เพื่อหนิงจะได้วางแผนงานได้คะ ทำ คือ ทำ ไม่ทำ คือ ไม่ทำ กล้าหาญที่จะปฏิเสธอย่างสง่างาม

5. ผลประโยชน์ที่อื่นมากกว่า ?

ถ้าท่านหมายถึงผลตอบแทน หรือความคุ้มครองที่มากกว่า หนิงเข้าใจคะ

แต่ขออนุญาติเรียนถามท่านว่า

ตัวแทนที่นำเสนอท่านนั้น ท่านรู้จักไหมคะ มีคนแนะนำที่ไว้ใจได้ รึเปล่า และ ที่สำคัญ เค้าเป็นตัวแทนที่ดี เป็นคนดี และมีคุณภาพไหมคะ ถ้าใช่..

หนิงยินดีกับท่านด้วยคะ คนดีๆสมควร ได้รับการสนับสนุน เค้าจะได้มีแรง มีพลังชีวิต และมีกำลังใจในการทำงาน และสร้างคุณงาม ความดีต่อไป

หนิงถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งคะ

มาถึงจุดนี้ หนิงขออนุญาติพูดถึงคุณลูกค้าที่เคารพท่านหนึ่งนะคะ ท่านพูดไว้ว่า...

"หนิง จำไว้นะ ที่พี่ทำกับหนิง ไม่ใช่ว่า ของบริษัท หนิง ดีกว่า ถูกกว่า หรือ ได้ผลตอบแทนมากกว่า แต่เพราะว่า เป็น ..หนิง.. เพราะพี่มั่นใจ และเชื่อใจในตัวหนิง  ว่าหนิงจะดูแลพี่และครอบครัวได้

และที่สำคัญ มากกว่าเบี้ยประกันที่จ่ายไป พี่ได้ให้โอกาสคนดีๆ ได้ยืนอย่างสง่างาม..."

หัวใจพี่หล่อมาก ♥️

ทุกครั้งที่เหนื่อยและท้อ นึกถึงคำท่าน ทำให้หนิงมีกำลังใจลุกขึ้นทุกครั้งเลยคะ

สุดท้าย ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร หนิงกราบขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ผู้มีอุปการคุณทุกคน ที่เมตตาให้โอกาสหนิง ได้นำเสนอ และ ได้รู้จักพบเจอ ท่านคะ

🙏 ด้วยความเคารพ 🙏

(การพบกันของใครบางคน มิใช่เรื่องบังเอิญ)